นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี มีมติรับทราบการให้สถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พ.ค. 2563 เป็นวันที่ 1 ก.ค. 2563 นั้น
การเลื่อนเปิดเทอมครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้เรียน ครู ผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา เป็นการเตรียมความพร้อม ในการเรียนการสอนออนไลน์ และต้องการกำหนดวันเปิดเรียนที่แน่นอน ไม่ว่า จะมีวัคซีนหรือไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม แต่หากมีวัคซีนป้องกันได้ ก็จะเปิดเรียนในห้องเรียนตามปกติ
ทั้งนี้ การจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2563 จะไม่มีการปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนตุลาคม 2563 และเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ล่าช้าไปกว่า 2 เดือนแล้ว ดังนั้นจะต้องมีการจัดการเรียนการสอนให้ครบตามหลักสูตร
ส่วนการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 จะเริ่มดำเนินการรับสมัครผ่านระบบออนไลน์ ในเดือนพ.ค. 2563 โดย ศธ.จะมีการตรวจสอบรายชื่อเพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน เมื่อมีความพร้อมก็จะเปิดสอบพร้อมกันทั่วประเทศ แต่หากช่วงนั้นไวรัสยังระบาด ก็จะหาวิธีจัดสอบแบบออนไลน์ ซึ่งการจัดสอบออนไลน์ยอมรับว่า เป็นวิธีการที่ยาก เพราะยังไม่มีสูตรสำเร็จ
อีกทั้งในช่วงเวลานี้จะเป็นการเตรียมความความพร้อมด้านทักษะการสอนออนไลน์ และความเข้าใจให้กับครู โดยจะแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา โดยในช่วงเดือน พ.ค.นี้ ศธ.จะเริ่มปล่อยหลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์ผ่าน TV หลายช่อง เพื่อทดลองระบบการรับส่งสัญญาณในพื้นที่ต่างๆ เพื่อหาจุดบกพร่องและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
“กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมที่จะจัดหาอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนออนไลน์ที่มีความเหมาะสม อาจจะเป็น Tablet หรือ Laptop ที่มีความแตกต่างจากที่เคยแจกในครั้งที่แล้ว โดยสามารถใช้เรียนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้การจัดหาอุปกรณ์ที่มีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป โดย ศธ.ต้องบริหารจัดการงบประมาณภายในกระทรวงเอง ไม่ของบประมาณเพิ่ม” รมว.ศธ. กล่าว