“บีซีพีจี” เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 จากไตรมาส 2/2565 ทำให้ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2565 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,692 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,334 ล้านบาท
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ในไตรมาส 3/2565 มีกำไรจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 จากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ “Nam San 3A” และ “Nam San 3B” ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล (High Season)
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,692 ล้านบาท จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 3 โครงการ จำนวน 65 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการชิบะ 1 โครงการโคมากาเนะ และโครงการยาบูกิ ซึ่งทยอยรับรู้ผลการดำเนินงานในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีนาคม 2565 และเมษายน 2565 ตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่ดีขึ้นจากการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของแผงโซลาร์ รวมถึงการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Project) และการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)
ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,334 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 31.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท Star Energy Group Holdings Pte. Ltd. (SEGHPL) ในไตรมาส 1/2565