บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ส่ง 2 ครูสเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดลุยตลาด "R 18 Transcontinental" และ "R 18 B Bagger" ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับความร้อนแรงด้วยเครื่องยนต์ “บิ๊กบ็อกเซอร์”
โดย บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental การออกแบบและวางโครงสร้างทางวิศวกรรมอรองรับการขับขี่ทางไกล เน้นความสบายในการขับขี่ แต่ก็ ปราดเปรียว และมีความโดดเด่น รองรับการเดินทางไม่ว่าจะลุยเดี่ยว หรือมีผู้โดยสารซ้อนท้าย พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระก็ตาม
ขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู R 18 B ออกแบบให้เป็นมอเตอร์ไซค์สำหรับผู้รักการขับขี่ สร้างความพอใจสำหรับแฟนมอเตอร์ไซค์พันธุ์แท้
มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู R18 Transcontinental และบีเอ็มดับเบิลยู R18 B เป็นดาวดวงใหม่ในในครอบครัวมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งของบีเอ็มดับเบิลยู
การออกแบบรถทั้ง 2 รุ่น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากระบบสรีรศาสตร์ เพื่อทำให้รถเหมาะกับการขับขี่แบบครูสซิ่งและทัวริ่ง
ส่วนเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ เป็นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เป็นเครื่องยนต์ 2 สูบ ความจุ 1,802 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ หรือ 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบ/นาที แรงบิดา 150 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังไปขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อ
ระบบช่วงล่างทั้ง 2 รุ่น เป็นแบบเทเลสโคปิก และระบบสวิงอาร์ม ติดตั้งโดยตรงบนคานรับน้ำหนักแบบยื่นที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อให้ควบคุมล้อได้อย่างแม่นยำ และการขับขี่ที่นุ่มสบาย
คานรับน้ำหนักด้านหลังสามารถปรับตั้งค่าความหนืดได้และมีระบบชดเชยโหลดอัตโนมัติ แกนช็อคแอบซอร์เบอร์ หน้าแบบเทเลสโคปิกของทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับปลอกหุ้มโช้ค
ติดตั้งดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า และดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก หรือ เอบีเอส
ด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ ติดตั้งทั้ง
- ระบบควบคุมการขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์ DCC (Dynamic Cruise Control) เป็นการควบคุมระดับความเร็วในการขับขี่อัตโนมัติที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง
- ระบบควบคุมการขับขี่แบบ Active Cruise Control (ACC) เพื่อช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบควบคุมระยะห่างจากคันหน้า จากการตรวจจับด้วยเรดาร์ที่ติดตั้งบนฝาครอบไฟหน้า และยังมีฟังก์ชั่นเสริมความปลอดภัยในการเข้าโค้ง ควบคุมการเข้าโค้งด้วยการชะลอความเร็วให้เหมาะสมกับมุมเอียงของถนน
- ไฟหน้าปรับตามทิศทางการขับขี่
- ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR)
- ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control)
- ระบบเกียร์ถอยหลังช่วยให้การกลับรถง่ายขึ้น
- ระบบป้องกันการโจรกรรมและระบบเซ็นทรัลล็อคมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ “Rain” “Roll” และ “Rock”
ติดตั้งเบาะแบบนุ่ม มาพร้อมระบบอุ่นเบาะ เพื่อความสบายในการขับขี่ทางไกล
มาตรวัดแบบอนาล็อกหน้าปัดทรงกลม 4 ช่อง และจอสีแสดงผลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้วพิมพ์ตัวอักษร “BERLIN BUILT” เสริมความคลาสสิก
สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน BMW Connected App และชูความโดดเด่นกับระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 1 ที่พัฒนาร่วมกับผู้ผลิตเครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษอย่าง Marshall ลำโพง 2 ดอก พร้อม ซับวูฟเฟอร์ กำลัง 280 วัตต์
ติดตั้งบนหน้าปัดของฝาครอบไฟหน้ารถ พร้อมด้วยหน้ากากลำโพงสีดำที่แต่งด้วยตัวอักษร Marshall สีขาว
ราคาจำหน่าย
- R 18 Transcontinental 1,640,000บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- R 18 B Bagger 1,500,000บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
#Bmw r18 transcontinental
#bmw r18 transcontinental
#r18 transcontinental price
#r18 transcontinental review
#bmw r18 review
#bmw r18 b price
#bmw r18 transcontinental specs
#bmw r18 transcontinental price
#มอเตอร์ไซค์ใหม่ 2021
#CB350 เข้าไทย
#ข่าวมอเตอร์ไซค์
#มอ ไซ ค์ ออ โต้ 2021
#บิ๊ ก ไบ ค์ 2022
#มอเตอร์ไซค์ ปี 2022
#มอเตอร์โชว์ 2021 มอเตอร์ไซค์
#มอ ไซ ค์ 150cc 2021